วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สัปดาห์ที่ 17 ของการฝึกงาน ระหว่างวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ 2554

สัปดาห์นี้ เป็นการ PM ที่ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งที่ โบ๊เบ๊และที่บ้านราชวิถีมีเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด จำนวน 250 เครื่องและเครื่องปริ้นอีก 150 เครื่อง ซึ่งถือว่าเยอะที่สุด โดยการ PM นั้นจะเริ่มที่ สาขาโบ๊เบ๊ก่อน โดนมีพี่บอยเป็นคนพาไปขออนุญาติตามห้องต่างๆเพื่อขอเข้าไปทำการ PM โดยที่สาขาโบ๊เบ๊ใช้เวลาในการทำ PM 2 วัน และต่อด้วยสาขาบ้านราชวิถี โดยมีพี่ปอนด์เป็นพี่ที่ประจำอยู่ที่นั่น พี่ปอนด์มักจะให้ทำเครื่องทำให้ได้ฝึกประสบการณ์ต่างๆที่ได้มา เอามาลองทำเครื่อง ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนพี่ปอนด์็จะบอก และบางครั้งพี่ปอนด์ก็จะพูดถึงเรื่องต่างๆในปัจจุบัน ให้ฟังว่าอะไร ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ มีคำพูดหนึ่งที่โดนมาก "แบรนด์ซุปไก่สกัดที่กินๆกันเข้าไปน่ะ มันก็แค่น้ำต้มไก่" พี่ปอนด์เปิดเว็บให้ดูว่ามันเป็นมายังไง และอีกอย่าง "สก๊อตรังนก ที่กินๆนะมันแค่น้ำลายนก ที่มันราคาแพงเพราะมันหายาก กินไปแล้วไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย " ซึ่งเมื่อเซิ้ด Google แล้วมนก็จิง ไม่มีหมอคนใหนออกมาบอกว่ามันมีประโยชน์

สัปดาห์ที่ 16 ของการฝึกงาน ระหว่างวันที่ 14-18 กุมภาพันธ์ 2554

สัปดาห์นี้ เป็นการ PM ที่นิติวิทยาศาสตร์ สาขาแจ้งวัฒนะ (ศูนย์ราชการ) มีคอมพิวเตอร์ทั้งหมดจำนวน 120 เครื่อง โดยมีพี่แดงบั้งไฟและพี่แอล ประจำอยู่ที่นั่นพอไปถึงพวกพี่ๆ ก็จะบ่นถึงการทำงานให้ฟัง โดยการทำงานของพวกพี่ๆ จะมีคนจ้องจับตาดูอยู่ตลอดเวลาคอยจับผิดอยู่ตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรยังไง แต่เมื่อได้เห็นหน้าพวกผมก็จะยิ้มและพูดคุยเฮฮา การทำ PM ที่นี่ จำเป็นต้องสำรวมแบบสุดๆ เพราะเป็นห้องหมอใหญ่ๆ เช่น คุณหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ มีอุปกรณ์ราคาแพงมากมาย อีกทั้งมีข้อมูลลับของทางราชการ ที่บุคคลภายนอกไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว จึงทำให้การทำงาน PM เป็นที่น่าลำบากใจพอสมควร และวันศุกร์สุดสัปดาห์ทางบริษัทได้พามีประชุม พร้อมด้วยการสังสรรค์ ซื้อได้พาไปเลี้ยงที่ คาราโอเกะ ซิตี้ โดยมีพนักงานในบริษัทรวมทั้งหมด 13 คน มีการรัปทานอาหาร และเครื่องดื่มกันอย่างสนุกสนาน และเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ ก็แยกย้ายกันกลับบ้านตามปกติ

สัปดาห์ที่ 15 ของการฝึกงาน ระหว่างวันที่ 7-11 กุมภาพันธ์ 2554

สัปดาห์นี้ เป็นการ PM ที่นิติวิทยาศาสตร์ สาขาประชาชื่น โดยมีพี่นัน ประจำอยู่ที่นั่น เป็นคนพาไปทำการ PM ในห้องต่างๆ โดยแต่ล่ะห้องนั้น ต้องใช้ความระมัดระวังมากทีเดียว เพราะมีอุปกรณ์และเครื่องมือหมอต่างๆ ที่มีราคาแพง และสำคัญต่องานของหมอ แต่ล่ะท่าน ถ้าเกิดเราทำผิดพลาดไปโดนอะไรเข้าอาจทำให้เสียเวลาและเสียงานได้ โดยมีอุปกรณ์อยู่เครื่องหนึ่ง พี่นันบอกว่า "เครื่องนี้พี่เห็นมันทำงานมาเป็นเดือนล่ะ ไม่รู้ทำอะไร" ประโยคนี้ทำให้ผมต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเลยทีเดียว โดยการทำ PM แต่ล่ะห้องนั้น ได้เห็นอะไรมากมาย ได้พบเจอผู้คนมากมาย ได้เจอ ชิ้นส่วนมนุษย์ที่ถูกสต๊าฟไว้ เป็นกรณีศึกษาของหมอ เจอชิ้นเนื้อต่างๆ เพื่อใช้ในการตรวจ DNA เพื่อนำไปประกอบคดีต่างๆ มีรูปภาพศพต่างๆมากมาย ที่หมอแต่ละท่านใช้ในการทำงาน โดยที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์มีคอมพิวเตอร์จำนวน 60 เครื่อง และเครื่องปริ้นอีก 30 เครื่อง

สัปดาห์ที่ 14 ของการฝึกงาน ระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ 2554

การฝึกงานในสัปดาห์นี้ เข้าสู่วัฏจักรการ PM อีกครั้ง เพราะเป็นการเข้าสู่เดือนที่ 4 ซึ่งครบรอบการทำ PM ใน สำนักงานกรรมการพัฒนาระบบราชการ และนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งที่ประชาชื่น และ แจ้งวัฒนะ (ศูนย์ราชการ) โดยเริ่มที่ กพร. ก่อนเป็นที่แรกเลย ซึ่งการทำ PM ที่ กพร. นี่ค่อนข้างยุ่งยากมาก โดยต้องทำการ ถอด Case ออกจากโต๊ะของ User และยกออกไปทำการถอดฝา และเป่า โดยที่ กพร. นี้ฝุ่นเยอะมาก เพราะว่า 3 เดือนทำการ PM ครั้งหนึ่ง เมื่อเป่าเสร็จแล้วทำการประกอบฝา Case แล้วนำไปส่งเข้าที่เก่า นำผ้าพร้อมน้ำยาเช็ดทำความสะอาดเครื่อง พร้อมเปิดเครื่องเพื่อเช็คความผิดปกติหลังการทำ PM เพราะบางเครื่องอาจเปิดไม่ติดอาจเป็นเพราะได้รับการกระทบกระเทือน ก็เป็นได้ กพร. นี้มีคอมพิวเตอร์ทั้งหมดจำนวน 115 เครื่อง

สัปดาห์ที่ 13 ของการฝึกงาน ระหว่างวันที่ 24-28 มกราคม 2554

สัปดาห์นี้ ได้ไปอยู่กับพี่บอยที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สัปดาห์นี้งานไม่ค่อยมีมากนัก พี่บอยจึงแนะนำและพูดถึงการศึกษาต่อปริญญาโท ว่าการศึกษาต่อปริญญาโทนั้น ถ้ามีโอกาสก็ควรศึกษาต่อ การศึกษาปริญญาโทเปรียบเสมือนการเปลี่ยนแปลงไปในอีกทางที่ดีขึ้น เพราะพี่บอยแกเล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนศึกษาอยู่ปริญญาตรีนั้น แตกต่างกับการศึกษาปริญญาโทมาก ต้องรับผิดชอบงานมากขึ้น ทำให้ตัวเราเองมีความรับผิดชอบมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การศึกษาปริญญาโทนั้น ต้องดูให้ดี เพราะบางมหาลัยนั้นไม่มีเปิดหลักสูตรที่เราต้องการศึกษาต่อ บางมหาลัยอาจมีเงื่อนไขต่างๆในการเข้าศึกษาต่อ ดังนั้นจึงแนะนำให้เราเลือกและตรวจตาดูให้ดีๆ สัปดาห์นี้ดูแลและซ่อมแซมคอมพิวเตอร์จำนวน 5 เครื่อง

สัปดาห์ที่ 12 ของการฝึกงาน ระหว่างวันที่ 17-21 มกราคม 2554

สัปดาห์นี้ ได้ลงมือทำเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ แก้ปัญหาเอง เช่น การแชร์เครื่องปริ้น ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของ User ในกลุ่มนั้นๆ สามารถสั่งปริ้นเครื่องปริ้นได้ทุกคน เครื่องปริ้น แต่ละรุ่น แต่ล่ะยี่ห้อ มีลักษณะการแชร์ ที่คล้ายๆกัน แต่จะแตกต่างกันที่ว่าจะ แชร์เครื่องปริ้นผ่านอะไร เครื่องปริ้นบ้างเครื่องอาจใช้ USB แต่บางเครื่องใช้ Port ที่แตกต่างออกไป
การทำงานนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ที่การแก้ไข Software และการดูแล Hardware บางเครื่องมีปัญหาเปิดเครื่องไม่ติด ไม่ทราบอาการ เราก็ทำการเช็คเบื้องต้น ขยับนู้น ขยับนี่ เอา RAM ออกมาถู เช็คว่าอุปกรณ์ชิ้นใหน เสียหรือทำงานผิดปกติไป ถ้าแก้ไขได้ก็จะทำการแก้ไข ณ ที่นั้น แต่ถ้าหาอาการไม่เจอ หรือต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ จำเป็นต้องยถเครื่องคอมพิวเตอร์กลับบริษัท โดยสัปดาห์นี้ยกเครื่องคอมพิวเตอร์กลับบริษัทจำนวน 6 เครื่อง เพื่อดำเนินตามขั้นตอนต่อไป

สัปดาห์ที่ 11 ของการฝึกงาน ระหว่างวันที่ 10-14 มกราคม 2554

สัปดาห์นี้ การทำงานได้เริ่มกระจายกัน โดยนักศึกษาที่ฝึกงานแต่ล่ะคนได้ ส่งไปช่วยงานพี่ๆ ที่บริษัทในแต่ล่ะที่ เช่นกระทรวงศึกษาธิการ กรมพัฒนาระบบราชการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศูนย์สถิติแห่งชาติ นิติวิทยาศาสตร์ โดยแต่ละวันนั้น ได้ถูกส่งไปที่ต่างๆโดยไม่ซ้ำกัน กระทรวงศึกษาธิการมีงานมาก User ค่อนข้างที่จะมีปัญหาในการใช้ Software มาก บางครั้งปัญหาที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นเพียงเล็กน้อย อย่างเช่น เล่น MSN ไม่ได้ ลงMSN ไม่เป็น และเมื่ออธิบายความเป็นไปให้ User ฟัง User บางคนมีข้อโต้แย้ง ทำไมไม่เป็นอย่างนี้ ? ทำไมไม่ต้องเปลี่ยน ? ทำไมมันช้าอย่างนี้ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากตัว User เองที่ทำการโหลด อะไรหลายๆ อย่างพร้อมๆกัน คอมพิวเตอร์ที่ได้ตรวจเช็คและบำรุงนั้น มีจำนวนทั้งหมด 15 เครื่อง โดยมีพี่ๆ คอยแนะนำ